![]() |
เตรียมเสนอร่างให้ รมว.ศธ.ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการปฏิรูปการอุดมศึกษา รองรับประเทศไทย 4.0 การปฏิรูปการอุดมศึกษาให้ได้ผลจำเป็นต้องแยกเป็นกระทรวงการอุดมศึกษา โดยมี ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา พ.ศ.... เป็นหลัก ซึ่งที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบแล้ว แต่ต้องแก้ไขอีกเล็กน้อย ก่อนเสนอ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ สำหรับหลักการและสาระสำคัญของร่าง ประการแรก สถาบันอุดมศึกษาจะต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งรวมถึงนักเรียนและผู้ปกครอง โดยจะต้องเป็นการศึกษาที่มีคุณภาพ ผู้เรียนมีงานทำ และมีชีวิตที่ดีขึ้น ประการที่สอง สถาบันอุดมศึกษาจะต้องมีคุณภาพ ผลิตสาขาที่ขาดแคลน คำนึงถึงทิศทางของโลก รวมทั้งเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต ประการที่สาม เน้นการวิจัยและสร้างนวัตกรรม ประการที่สี่ มีการบริหาร จัดการที่มีประสิทธิภาพ โดยภาครัฐหรือกระทรวงการอุดมศึกษาเป็นผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งต้องมีความสมดุลกับความมีเสรีภาพทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษาด้วย ประการที่ห้า บทบาทของสาธารณะที่จะเข้ามามีส่วนร่วม ผู้สื่อข่าวถามว่า อำนาจของ รมต.การอุดมศึกษาจะเพิ่มขึ้นและแตกต่างจากการกำกับของ รมว.ศึกษาธิการ ที่ดูแลสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาในปัจจุบันอย่างไร ศ.นพ.จรัส กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.การอุดมศึกษา จะบัญญัติอำนาจ รมต.การอุดมศึกษาที่ชัดเจน โดยเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาได้ แต่ต้องรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และสถาบันอุดมศึกษา ประกอบการพิจารณา รวมทั้งต้องดำเนินการให้เหมาะสมกับปรัชญาการศึกษาและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ซึ่งแม้ รมต.การอุดมศึกษาจะมีอำนาจมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถใช้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด สำหรับที่มาของประธาน กกอ. จะยึดหลักธรรมาภิบาล แต่งตั้งโดยคณะรัฐมนตรี สรรหาโดยที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.), ทปอ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ, ทปอ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล, สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย (สสอท.) ส่วนการประเมินสถาบันอุดมศึกษานั้น กฎหมายใหม่จะเปิดกว้าง โดยให้ กกอ.เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์การประเมิน. ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 10 ม.ค. 61 อ่าน 1392 ครั้ง คำค้นหา : |