![]() |
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสายงานบริหารสถานศึกษา โดยจะมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงานมากขึ้น รวมถึงเป็นประโยชน์และสร้างความเป็นธรรมในการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ ก.ค.ศ. พิจารณาและมีมติว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ว 13/2556 ให้สามารถขอทบทวนมติ ก.ค.ศ.ได้ในกรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารายใดเห็นว่าผลการพิจารณานั้นอาจคลาดเคลื่อน ให้เสนอขอทบทวนผลการพิจารณาเป็นรายบุคคลได้ภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่สำนักงาน ก.ค.ศ. มีหนังสือแจ้งมติ ก.ค.ศ. โดยการทบทวน ก.ค.ศ.จะพิจารณาจากเอกสารที่ผู้ขอรับการประเมินยื่นไว้เดิม โดยผู้ขอรับการประเมินจะต้องชี้แจงในประเด็นที่เห็นว่า ก.ค.ศ. พิจารณามีความคลาดเคลื่อนจากเอกสารหลักฐานที่ได้เสนอไว้เดิม ด้านนายประเสริฐ บุญเรือง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษก ศธ.กล่าวว่า สำหรับหลักเกณฑ์การขอย้ายผู้บริหารสถานศึกษาใหม่นั้น สามารถขอย้ายข้ามจังหวัดได้ โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ขนาด เช่น เมื่อตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษว่างผู้ที่มีโอกาสย้ายจะเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษกับผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่ หรือ เมื่อตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่ว่างผู้มีโอกาสย้ายจะเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดใหญ่และผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดกลาง รวมทั้งองค์ประกอบการพิจารณาการย้าย 8 ข้อ เช่น ต้องมีความอาวุโส และมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านภาษาและเทคโนโลยีในการพัฒนาโรงเรียน เป็นต้น โฆษก
ศธ.กล่าวต่อไปว่า
สำหรับการกำหนดระยะเวลาขอย้ายได้ปรับแก้ไขใหม่จากเดิมจะต้องดำรงตำแหน่งผู้บริหารโรงเรียนนั้นให้ครบ
24 เดือน แต่ปรับใหม่เป็น 12 เดือน แต่ผู้ขอย้ายจะต้องอยู่ในตำแหน่งครบ 12
เดือนบริบูรณ์นับตั้งแต่วันดำรงตำแหน่งถึงวันที่เขียนคำขอย้าย ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ |
โพสเมื่อ : 11 ม.ค. 63 อ่าน 2081 ครั้ง คำค้นหา : |