ปลื้ม ตอบรับดีเกินคาด กสศ.เข้ม คัดเลือก "ทุนพัฒนาทักษะอาชีพและนวัตกรรม"
กสศ.เข้มคัดเลือกโครงการทุนพัฒนาทักษะอาชีพและนวัตกรรม
หลังกระแสตอบรับดีเกินคาด หลายองค์กรแห่ยื่นข้อเสนอกว่า 783 โครงการ
มากกว่าปี 62 ถึง 7 เท่า ยึดรอบคอบ-โปร่งใส ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ จิตระดับ
ประธานอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน
และที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร กสศ.
กล่าวถึงการเปิดรับสมัครยื่นข้อเสนอโครงการทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน
ปี 2563 ว่า สำหรับโครงการทุนพัฒนาอาชีพฯ
ที่เปิดรับสมัครส่งข้อเสนอโครงการผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย. -
24 มิ.ย.2563 ปรากฏว่ามีผู้สนใจส่งข้อเสนอโครงการจำนวน 783 โครงการ จาก 73
จังหวัด ครอบคลุม 6 ภูมิภาค โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ 1.
ทุนนวัตกรรมเพื่อชุมชน จำนวน 202 โครงการ และ 2.
ทุนพัฒนาทักษะอาชีพโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน จำนวน 581 โครงการ
ซึ่งหากเปรียบเทียบข้อเสนอโครงการในปี พ.ศ.2562 กับ ปี พ.ศ.2563
มีหน่วยงานที่สนใจเป็นจำนวนมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ยื่นข้อเสนอโครงการมาทั้งหมด 111 โครงการ ขณะที่ปี 2563
การยื่นข้อเสนอโครงการเพิ่มขึ้นประมาณ 7 เท่า
ศาสตราจารย์
ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา กสศ.
เปิดกว้างและเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนส่งข้อเสนอโครงการเข้ามาทำให้มีความหลากหลายของหน่วยงานรัฐ
เอกชน สถาบันการศึกษาองค์กรและกิจการเพื่อสังคม
และกลุ่มชุมชนในพื้นที่ทั่วประเทศไทยที่สนใจ โดยจำนวน 783 โครงการ
ที่ยื่นข้อเสนอมาสามารถแยกเป็นกลุ่มต่างๆ ได้ ประกอบด้วย สถาบันการศึกษา
จำนวน 421 โครงการ องค์กรชุมชน (เช่น วิสาหกิจชุมชน กลุ่มสวัสดิการชุมชน
กลุ่มสตรีแม่บ้าน กองทุนสวัสดิการชุมชน กองทุนหมู่บ้าน) จำนวน 144
โครงการองค์กรสาธารณประโยชน์/องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร จำนวน 84 โครงการ
องค์กรปกครองท้องถิ่น จำนวน 53 โครงการ หน่วยงานในภาครัฐ และเอกชนจำนวน 29
โครงการ ศูนย์การเรียนรู้/ศูนย์ปราชญ์ชาวบ้าน จำนวน 18 โครงการ
กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) จำนวน 13 โครงการ และอื่นๆ จำนวน 21
โครงการ
อย่างไรก็ตาม
สำหรับจำนวนผู้ส่งข้อเสนอโครงการเข้ามา 783 โครงการ
ถือว่าสังคมให้ความสนใจและได้รับการตอบรับอย่างดี
เนื่องจากเห็นว่าเป็นแนวทางการพัฒนาที่มีประโยชน์
ตอบโจทย์ประเด็นปัญหาขณะนี้โดยตรง ทำให้หลายภาคส่วนต้องการร่วมพัฒนาไปกับ
กสศ. และเห็นด้วยกับแนวทางการใช้ชุมชนเป็นฐาน
ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานรากสำคัญในปัจจุบัน
และหลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
มีคนจำนวนมากต้องย้ายกลับถิ่นฐานบ้านเกิด
ดังนั้นเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกจะมีหลักการและแนวทางพิจารณาเข้มข้นรอบคอบ
รัดกุม และโปร่งใส จากผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วน
ประกอบด้วย 1. ภาควิชาการ /ภาครัฐ 2. ภาคเอกชน 3. ภาคสื่อมวลชน และ 4.
ปราชญ์ชาวบ้าน/ท้องถิ่น
ที่จะให้มุมมองเชิงบูรณาการภายใต้เกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอโครงการ 3
เกณฑ์หลักสำคัญ 1. ประสบการณ์การทำงานและความร่วมมือการทำงานชุมชน 2.
คุณภาพข้อเสนอโครงการ และ 3. ความสอดคล้องของกระบวนการทำงาน
องค์ประกอบและกลุ่มเป้าหมาย และในวันที่ 17-19 ก.ค. กสศ.
จะจัดประชุมชี้แจงและพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอโครงการฯ
โดยผู้ทรงคุณวุฒิหลายภาคส่วน ณ โรงแรม ทีเค.พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น
กรุงเทพฯ “ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดจะเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจต่อการพัฒนาทักษะอาชีพและการพัฒนานวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐานสำหรับกลุ่มผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และผู้ด้อยโอกาส
ที่สำคัญต้องไม่มีความเกี่ยวข้องต่อข้อเสนอโครงการที่เสนอเข้ามาด้วย
ทั้งนี้ถึงแม้งบประมาณที่จำกัด
กสศ.ยังได้เสนอโครงการดังกล่าวเพื่อขอรับงบประมาณเพิ่มเติมจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอีกด้วย”
ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ กล่าว
ศาสตราจารย์ ดร.สมพงษ์ กล่าวว่า
กสศ.มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสนับสนุนและความช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสให้ได้รับการศึกษาหรือพัฒนา
มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพตามความถนัดและมีศักยภาพพึ่งพาตัวเองได้
และเพื่อให้โครงการบรรลุวัตถุประสงค์มีประสิทธิภาพภายใต้เงื่อนไข
ต้องมีทักษะการสร้างอาชีพโดยการใช้ชุมชนเป็นฐาน
สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการ/แรงงานฝีมือในชุมชน
ผ่านหลักสูตรระยะสั้น 3 ด้าน ได้แก่ 1.
ทักษะเฉพาะอาชีพโดยปฏิบัติงานจริงในชุมชนหรือสถานประกอบการ 2.
ทักษะการบริหารจัดการ 3. ทักษะชีวิตด้านเศรษฐศาสตร์ครัวเรือน
ที่สำคัญอย่างน้อยโครงการนี้จะทำให้มีกลุ่มเป้าหมายได้รับประโยชน์กว่า
10,000 คน ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโมเดลทางธุรกิจโดยมีชุมชนเป็นฐาน
คนในชุมชนมีงานทำ มีรายได้สูงขึ้น
รวมทั้งเป็นการขับเคลื่อนเชิงรุกเพื่อเสนอต่อหน่วยงานนโยบาย
หรือองค์กรต่างๆ ที่สามารถนำรูปแบบไปพัฒนาขยายต่อได้
อนึ่ง
ระเบียบของ กสศ.ว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข
และลำดับความสำคัญในการจัดสรรเงินกองทุน พ.ศ.2561
โดยการจัดลำดับความสำคัญนั้น
จะพิจารณาจัดสรรให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่ขาดแคลนทุนทรัพย์
หรือด้อยโอกาสและมีระดับรุนแรง กลุ่มเป้าหมายที่มีปัญหาซ้ำซ้อน
กลุ่มเป้าหมายที่ยังไม่เคยได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใด
ซึ่งเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติในการพิจารณาความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมที่สุด
นายสุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
(กสศ.) กล่าวว่า แม้ภาพรวมของประเทศไทยช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19
จะมุ่งไปที่ไทยแลนด์ 4.0 หากในความเป็นจริงเราทราบกันดีว่า
มีคนจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงได้
เรายังมีประชากรกลุ่มใหญ่ที่ตกจากขอบของการพัฒนา ถ้าเรามองข้ามคนกลุ่มนี้ไป
ความเหลื่อมล้ำในสังคมจะยิ่งขยายตัวออกไปไม่สิ้นสุด ดังนั้น
กลุ่มเป้าหมายของโครงการทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ปี
2563 จึงเป็นกลุ่มแรงงาน 1.0 2.0 ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา กสศ.
มองหาวิธีการช่วยเหลือมาตลอด กระทั่งได้บทสรุปว่า
“เราต้องสอนให้เขารู้วิธีจับปลา แทนที่จะเอาปลาไปให้เขา
และที่สำคัญคือเราต้องแน่ใจว่าเมื่อเขาตกปลาเป็นแล้ว จะต้องมีบ่อ มีสระ
มีพันธุ์ปลาที่เขาจะได้นำทักษะตกปลาที่เรียนรู้ไปใช้ได้จริงด้วย”
งานของเราจึงเริ่มที่ชุมชน
ต้องรู้ว่าในแต่ละพื้นที่มีอาชีพอะไรที่ไปได้ดีจริงๆ
แล้วชักชวนคนในชุมชนมาฝึกให้นำความก้าวหน้ามาอย่างไม่ฝืนธรรมชาติ
และเป็นไปตามศักยภาพของชุมชน
“ในการพิจารณากลั่นกรองข้อเสนอโครงการทุนพัฒนาอาชีพและนวัตกรรมที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน
ปี 2563
เราได้ตัวแทนเข้าร่วมนำเสนอมุมมองและคัดเลือกโครงการที่น่าสนใจจากบุคคล 4
กลุ่ม เช่น ภาคเอกชน
จะมีมุมมองด้านธุรกิจในแง่กิจกรรมว่าเมื่อทำแล้วจะเกิดผลอย่างไร
ไปรอดได้จริงในทางธุรกิจหรือไม่ ภาคสื่อมวลชน
ที่มีความเข้าใจมุมมองความคิดของคนทั่วไปได้มากที่สุด เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ถือเป็น 4 เสาหลักอันเป็นองค์ประกอบร่วมกันในการทำงาน
สำคัญกว่านั้นจะมีผู้คนนับหมื่นคนทั่วประเทศที่ได้รับประโยชน์
มีคนที่รอคอยโอกาสมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
มีคนว่างงานหรือตกงานไม่มีงานทำจากผลของวิกฤติโควิด-19
นี่คือสิ่งที่ผลักดันให้ กสศ.ต้องเร่งทำงาน
เพราะยิ่งการพิจารณาเสร็จสิ้นเร็วขึ้นเท่าไร
กิจกรรมก็จะเริ่มขึ้นได้เร็วเท่านั้น การพิจารณาข้อเสนอโครงการครั้งนี้
สิ่งที่มีค่าที่สุดจึงไม่ใช่แค่การคัดเลือก
แต่เป็นเรื่องของความพร้อมในการปรับปรุงแก้ไข
เพื่อให้โครงการสามารถนำมาใช้จนเกิดผลสำเร็จได้จริง” ผู้จัดการ กสศ. กล่าว |
โพสเมื่อ :
20 ก.ค. 63
อ่าน 1059 ครั้ง คำค้นหา :
|
|