"สมพงษ์" ชี้กรอบปฏิรูปการศึกษาเดินถูกทาง แนะเพิ่มบางประเด็นให้สมบูรณ์



“สม พงษ์” ชี้ประเด็นปฏิรูปของ กมธ.ศึกษาฯ มาถูกทาง แนะประเด็นเพิ่มทั้งเรื่องความเป็นพลเมือง ยกเลิกวัฒนธรรมเอกสารที่ทำให้ครูต้องทิ้งห้องเรียน รื้อระบบงบประมาณใหม่โดยต้องจัดสรรงบเพื่อพัฒนาคุณภาพเด็กโดยเฉพาะ ฯลฯ เชื่อทำให้การปฏิรูปการศึกษาสมบูรณ์
       
       รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์ ประจำคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตามที่สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) โดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ได้วางกรอบและเป้าหมายที่จะดำเนินการจัดทำข้อเสนอในการปฏิรูปทางการศึกษา 5 ประเด็นหลัก อาทิ เน้นให้การศึกษาเป็นวาระแห่งชาติ เน้นขจัดความเหลื่อมล้ำ ประกันโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพแก่คนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม เน้นการปฏิรูปการเรียนรู้เพื่อการพัฒนามนุษย์ที่สมบูรณ์ ผ่านการพัฒนาครูและสถานศึกษา เพื่อเพิ่มสมรรถนะของคนไทยและของประเทศ และการเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และการสร้างความรู้ เน้นการลดขนาดการจัดการภาครัฐ กระจายอำนาจการจัดการศึกษาสู่ฐานพื้นที่และสถานศึกษา สร้างการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน สร้างภาวะรับผิดชอบของผู้จัดการศึกษาต่อผู้เรียน และ เน้นการสร้างกลไกทางกฎหมายรองรับกระบวนการปฏิรูปให้มีความต่อเนื่องจนประสบ ผลสำเร็จ โดนปราศจากการแทรกแซงทางการเมือง รวมทั้งศึกษาและเสนอแนะด้านนโยบายอย่างต่อเนื่อง ทั้ง นี้เท่าที่ดูแนวทางปฏิรูปทั้งหมดของกมธ.ปฏิรูปการศึกษา ถือว่าตั้งโจทย์ได้ถูกทางและค่อนข้างมองได้อย่างรอบด้าน แต่ส่วนตัวมองว่ายังมีประเด็นปัญหาสำคัญอีกหลายประเด็นที่อยากให้หยิบขึ้นมา เป็นประเด็นและทำการปฏิรูปในคราวเดียวกัน
       
       รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวต่อว่า โดย ประเด็นที่ตนอยากให้ สปช. และ กมธ.การศึกษาฯ เข้ามาดู ได้แก่ เรื่องการสร้างความเป็นพลเมือง สร้างความสามัคคี รู้หลักเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพ ที่ถูกต้องไม่กระทบต่อสิทธิของผู้อื่น, ยกเลิกวัฒนธรรมเอกสาร ทั้งการประเมินวิทยฐานะการประเมินคุณภาพการศึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ ทำให้ครูออกจากห้องเรียนไปมุ่งทำในเรื่องเหล่านี้ ซึ่งไม่ได้สะท้อนคุณภาพการจัดการศึกษาที่แท้จริง, อยากให้รื้อระบบจัดสรรงบประมาณการศึกษาใหม่ที่เน้นพัฒนาคุณภาพของเด็กเป็น หลัก ตรงนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่เพราะต้องยอมรับว่างบส่วนใหญ่ ทุ่มไปที่เงินเดือนครู เป็นงบที่ใช้เพื่อการพัฒนาคุณภาพเด็กแค่เพียง 3-5% ของงบประมาณทั้งหมดที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้รับ ถือว่าน้อยมากจนไม่สามารถจัดการศึกษาที่มีคุณภาพได้, ปรับปรุงกฎหมายการศึกษาให้มีความทันสมัย ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และสุดท้ายปรับปรุงหลักสูตรใหม่ ให้เน้นให้เด็กมีความสุขกับกับเรียนอย่างแท้จริง ทั้งหมดนี้หากกมธ.ปฏิรูปการศึกษา เห็นความสำคัญ และช่วยขับเคลื่อน ให้มีการแก้ปัญหาอย่างถูกทิศทาง เชื่อว่า จะสามารถช่วยให้การศึกษาของประเทศไทยพัฒนาได้อย่างรวมเร็วแน่นอน

 

 

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 ตุลาคม 2557


โพสเมื่อ : 31 ต.ค. 57   อ่าน 1461 ครั้ง      คำค้นหา :