จ่อคืนอำนาจ สพฐ.แต่งตั้ง-ย้ายผู้บริหาร ตั้งคณะทำงานร่วมแบ่งงานให้ชัด



นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่าที่ประชุมได้พิจารณาถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากปัญหาความซ้ำซ้อนกันของการแต่งตั้งบุคลากรในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แก่ ผู้อำนวยการโรงเรียน และข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเป็นบุคลากรที่ขึ้นตรง กับ สพฐ. แต่ขณะนี้แต่งตั้งโยกย้ายโดยคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) จึงทำให้เกิดปัญหา ซึ่งที่ ประชุมพิจารณาแล้วมีมติในหลักการว่า บุคลากรของหน่วยงานใด ก็ต้องให้หน่วยงานต้นสังกัดนั้นเป็นผู้มีอำนาจเลื่อน ลด ปลด ย้ายได้จะทำให้เกิดประสิทธิภาพ ซึ่งก็คือให้ สพฐ.เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้งโยกย้ายได้ แต่การโยกย้ายนั้นจะให้พิจารณาในภาพรวมระดับจังหวัด อาทิ จังหวัดที่มีเขตพื้นที่ 8 เขต ก็ให้พิจารณาโยกย้ายครู ผู้บริหารข้ามเขตพื้นที่ได้ภายในจังหวัด กรณีที่ย้ายข้ามจังหวัดให้เสนอเรื่องมาที่ส่วนกลางเป็นผู้พิจารณา

ที่ปรึกษา รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อพิจารณาเนื้องานต่างๆ โดยให้พิจารณาว่า งานใดที่ชัดเจนและเป็นงานของ กศจ. และงานใดที่เป็นงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ส่วนงานที่มีความทับซ้อนกันระหว่าง กศจ.กับ สพท. หรือกลุ่มงานสีเทาที่ไม่สามารถแบ่งกันได้อย่างชัดเจน ให้คณะทำงานฯนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการปรับปรุงโครงสร้าง ศธ. ให้เป็นผู้พิจารณาตัดสิน โดยให้คณะทำงานฯเสนอกลับมาทั้งส่วนงานที่แบ่งกันได้อย่างชัดเจนแล้วกับงานที่ทับซ้อนกัน ในการประชุมครั้งหน้า วันที่ 31 ม.ค.นี้ ซึ่งตนเชื่อว่าจะได้ข้อสรุปที่เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย

“กรณีที่ สพฐ.เสนอรูปแบบการปรับโครงสร้าง สพฐ.ให้มี อ.ก.ค.จังหวัดนั้น ที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว เพราะเห็นว่าไม่ได้ทำให้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายบุคลากรจบลง ควรเป็นการพิจารณาในภาพรวมระดับจังหวัดและอยู่ภายในองค์กรของ สพฐ.น่าจะดีกว่า” นายวราวิชกล่าวและว่า ทั้งนี้ หากทุกอย่างลงตัวเป็นมติที่ประชุมแล้ว หากมีความจำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎระเบียบรวมไปถึงการเสนอแก้ไขคำสั่ง คสช.ก็จะดำเนินการต่อ เพราะ ครม.มีมติไว้ให้หน่วยงานเสนอเรื่องขอยกเลิกคำสั่ง คสช.ได้ ที่ประชุมก็จะเสนอเรื่องตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนจะใช้เวลาแค่ไหนก็ขึ้นกับขั้นตอนการพิจารณาตามครรลองของกฎหมาย.

ที่มา : นสพ.ไทยรัฐ


โพสเมื่อ : 27 ม.ค. 63   อ่าน 1670 ครั้ง      คำค้นหา :