เบรกมหา'ลัยใช้คะแนนแพต
สทศ.หาทางออกข้อสอบผิด เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.) นายอำนวย สุนทรโชติ ประธานชมรมค่านิยมเพื่อสร้างชาติ และนักเรียน 10 คน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ รศ.ดร.สัมพันธ์พันธุ์พฤกษ์ผอ.สทศ.คนใหม่ ซึ่งมารับตำแหน่งและทำงานเป็นวันแรก เพื่อขอให้สทศ.ตรวจข้อสอบวิชาความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการหรือ แพต 3 ความถนัดทางวิศวกรรมศาสตร์ และ แพต 2 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ ที่สอบเดือนตุลาคมที่ผ่านมาใหม่ เพราะมีข้อสอบผิด 3 ข้อ โดยเสนอให้คะแนนฟรีกับทุกคนที่เข้าสอบและให้ สทศ. ทำหนังสือแจ้งไปยังสถาบันอุดมศึกษาให้ชะลอการนำผลคะแนนไปใช้ จนกว่าจะมีการตรวจคะแนนใหม่ รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า ตนรับเรื่องทั้งหมดไว้ และต้องขอไปดูก่อนว่าในแต่ละเรื่องที่ร้องมามีเรื่องใดบ้างที่เป็นอำนาจผอ.สทศ.ตัดสินใจได้ทันทีก็จะเร่งดำเนินการ แต่ถ้าไม่อยู่ในอำนาจที่จะตัดสินใจได้ก็ต้องขอนำเข้าหารือในคณะกรรมการบริหาร สทศ.คาดว่าสัปดาห์หน้าจะนัดประชุมบอร์ด อย่างไรก็ตามจากนี้ตนต้องขอเวลา 1 เดือน เพื่อศึกษางานต่าง ๆ ของสทศ. ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะดำเนินการใด ๆ ขณะเดียวกันตนมั่นใจในบุคลากรและระบบการทำงานของ สทศ. ที่เป็นอยู่ว่าจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ โดยไม่มีปัญหา ต่อข้อถามกรณี รศ.ดร.สัมพันธ์ ไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ ม.ขอนแก่น แต่มารับตำแหน่ง ผอ.สทศ.รศ.ดร.สัมพันธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ลาออกจริง แต่มหาวิทยาลัยได้ออกหนังสือคำสั่งให้มาทำงานที่สทศ.ได้ ซึ่งหมายความว่ายังสามารถกลับไปทำงานที่ มข.ได้อีก ซึ่งการที่ตนไม่ลาออกนั้น ระบบราชการเปิดให้ทำได้ และเป็นเรื่องของเงินบำนาญ แต่ตนไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็น ขอให้ดูที่ผลงานจะดีที่สุด รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับอาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โดยมาตรฐานวิชาชีพ รศ.ดร.สัมพันธ์ควรจะลาออกจากราชการ เพื่อทำงานเต็มเวลา ไม่ใช่มารักพี่เสียดายน้องหรือนำเรื่องระบบราชการมาอ้างว่าทำได้ เพราะสทศ.เป็นหน่วยงานที่ตัดสินเรื่องคุณภาพมาตรฐานการศึกษา ดังนั้นต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม แต่ถ้า รศ.ดร.สัมพันธ์ ไม่ลาออกจะเป็นที่กังขาของสังคมทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง และไม่สง่างาม ศ.ดร.ชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) กล่าวว่า การที่ ผอ.สทศ.คนใหม่จะลาออกจากที่เดิมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้นั้นและมหาวิทยาลัยมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาตำแหน่งทางราชการให้กับ รศ.ดร.สัมพันธ์หรือไม่.
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ |