ทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
คอลัมน์ ทั่วถิ่นไทยก้าวไกลการศึกษา
ด้วยพระราชปณิธานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่มุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนไทยอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน จึงทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้น ในปี 2553 ทั้งนี้ ได้นำโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ดำเนินการตามพระราชดำริในปี 2552 มาดำเนินการภายใต้มูลนิธิ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นองค์ประธานกรรมการ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงเป็นองค์รองประธานกรรมการ
การดำเนินงานโครงการศึกษาฯ ภายใต้มูลนิธิมีกลไกคณะกรรมการมูลนิธิกำกับอำนวยการในระดับนโยบาย และคณะกรรมการบริหารจัดการทุนพระราชทานกำกับดูแลในด้านการบริหารดำเนินงานเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป้าหมาย และมีคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ ร่วมปฏิบัติงาน โดยความร่วมมือของสำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทย ร่วมประสานดำเนินงานกับคณะกรรมการระดับจังหวัดทุกจังหวัด ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเขต 1 เป็นฝ่ายเลขานุการ
ในปี 2554 มูลนิธิได้มีการวางแผน คัดเลือก คัดสรร และกลั่นกรอง จนได้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม มีความมุ่งมั่นใฝ่เรียนรู้ เรียนอยู่ในเกณฑ์ดี ประพฤติดี มีความกตัญญู มีฐานะยากจน สภาพครอบครัวยากลำบาก เป็นผู้สมควรได้รับพระราชทานทุนเป็นรุ่นที่ 3 รวม 154 ราย เป็นชาย 77 ราย หญิง 77 ราย จากทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำแนกเป็นทุนการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ ทุนละ 18,000 บาท/ปี 131 ราย และสายอาชีพ ทุนละ 22,000 บาท/ปี 23 ราย
ทั้งนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักเรียนทุน เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานทุนการศึกษาไปในวันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม 2554 ณ วังศุโขทัย
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ที่มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน นี้ได้เสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่เยาวชนไทยที่ เรียนดี หรือมีความขยันหมั่นเพียร มีความประพฤติดี มีคุณธรรม มีความยากจน ยากลำบาก ให้ได้มีโอกาสศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือสายอาชีพ ต่อเนื่องไปจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า โดยไมมีภาระผูกพันต้องใช้ทุนคืน อันจะทำให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงและเป็นกำลังคนที่มีคุณค่าของประเทศ
สถิรา ปัญจมาลา
นักประชาสัมพันธ์ ศูนย์สารนิเทศการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ.
ที่มา: http://www.matichon.co.th/khaosod |