ศธ.ตั้งเป้าคนไทยอ่านเพิ่มปีละ10เล่มชงงบ400ล้านผุดห้องสมุด3ดี-เติมภูมิคุ้มกันเด็ก
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะที่รับผิดชอบการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง ที่จะต้องส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ให้สอดรับกับเป้าหมายในการสร้างพลเมืองยุคใหม่ ที่มีความใฝ่รู้ ใฝ่ดี คิดเป็น ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น มีความเป็นสากล มีความเป็นพลเมือง ภาคภูมิใจในความเป็นไทย ซึ่งการขับเคลื่อนให้พลเมืองมีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ข้างต้น การอ่านถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะสร้างเสริมลักษณะเบื้องต้นในการใฝ่รู้อย่างแท้จริง ดังนั้น ศธ. จึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยมีตนเป็นประธาน และจัดประชุมเพื่อกำหนดเป้าหมายและกำหนดแผนการดำเนินงาน 5 แผน ซึ่งมีงบเพื่อขับเคลื่อนในปี 2554-2555 วงเงินกว่า 400 ล้านบาทดังนี้ 1. แผนงานรณรงค์นิสัยรักการอ่าน เพื่อสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง 2. แผนงานเพิ่มสมรรถนะการอ่าน เพื่อพัฒนาสมรรถนะการอ่าน ให้มีการอ่านคล่องเขียนคล่อง ทั้งเด็กในวัยเรียนและคนวัยทำงาน 3. แผนงานการสร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมในการอ่าน เช่นห้องสมุด 3 ดี ห้องสมุดประชาชน ห้องสมุดเฉลิมราชกุมารีและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ 4. แผนงานเครือข่ายความร่วมมือการอ่าน ซึ่งการส่งเสริมการอ่านไม่สามารถทำได้เฉพาะในส่วนราชการเท่านั้นจะต้องอาศัยสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ช่วยขับเคลื่อนกับภาคีเครือข่าย เช่นสถานประกอบการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และ 5.แผนงานวิจัยและพัฒนาเพื่อการอ่าน โดยจะทำวิจัยเพื่อหาคำตอบว่า คนไทยชอบอ่านหนังสืออะไร พัฒนาจากการอ่านหนังสือแบบเดิม เป็นการอ่านหนังสือจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ควรทำอย่างไร การอ่านช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนอย่างไร จากรายงานสถิติในปี 2551-2552 พบว่าคนไทยอ่านหนังสือเพียง 5 เล่มต่อปี หากสามารถดำเนินการตามแผนส่งเสริมการอ่าน ภายใน 3 ปี จะมีแนวโน้มสถิติการอ่านที่ดีขึ้นและในปี 2561 จะเพิ่มจำนวนการอ่านหนังสือของคนไทยให้เป็น 10 เล่มต่อปีได้แน่นอน
--ข่าวสด ฉบับวันที่ 11 เม.ย. 2554 (กรอบบ่าย)-- |