รามาแนะศธ.ปรับวิชาสุขศึกษา เน้นโรคใกล้ตัวหวังลดเจ็บป่วย
ASTV ผู้จัดการรายวัน -แพทย์รามาฯ แนะศธ.ปรับหลักสูตรวิชาสุขศึกษา เน้นสอนโรคที่เกิดขึ้นใกล้ตัว เกิดจากพฤติกรรม หวังเด็กมีแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง เป็นผลดีต่อการป้องกันโรค ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)ควรปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอนวิชาสุขศึกษา เนื่องจากเนื้อหาสาระในปัจจุบันมุ่งเน้นสอนให้เด็กเรียนรู้ในโรคที่ค่อนข้างไกลตัวเด็ก เช่น โรคไข้เหลือง เป็นต้น จึงควรเน้นให้เด็กได้เรียนรู้โรคที่มีอุบัติการณ์พบผู้ป่วยมากขึ้นโรคที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของประชาชนเองและโรคที่สามารถป้องกันได้หากมีการหยุด หรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง อาทิ โรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งปัจจุบันไม่ได้มีการบรรจุไว้ในหลักสูตรสุขศึกษา ทั้งที่คนไทยป่วยโรคนี้ในอัตราสูงและเป็นโรคที่เป็นสาเหตุการตายลำดับหนึ่งของประชากรโลก อย่างโรคความดันโลหิตสูงที่พบคนป่วยจำนวนมากและอาจนำไปสู่โรคต่างๆ ได้ โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรสอนให้เด็กรู้ว่าโรคนี้มีสาเหตุจากอะไรบ้าง เช่น เกิดจากการรับประทานอาหารรสเค็มจัด ซึ่งคนไทยบริโภคถึง 10.8 กรัม สูงเป็น 2 เท่าของที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน เป็นต้น หากนักเรียนได้เรียนรู้และรับทราบข้อมูลเหล่านี้ตั้งแต่เด็ก เขาก็จะทราบว่าพฤติกรรมการบริโภคหรือวิถีชีวิตเช่นไร จะทำให้เกิดโรคอะไรขึ้นได้บ้าง เพื่อที่จะได้เลือกแนวทางปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตั้งแต่เด็กซึ่งจะให้ผลดีในการป้องกันโรค ศ.นพ.ปิยะมิตรกล่าว ศ.นพ.ปิยะมิตรกล่าวต่อว่า หากมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงจากปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคตั้งแต่อายุน้อย เช่น เขาจะได้รู้ว่าเมื่อลดปริมาณการรับประทานเกลือลงครึ่งหนึ่ง หรือไม่ทานอาหารรสเค็มจัด ก็จะช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงแต่หากเขาไม่ได้เรียนรู้ก็จะไม่รู้ว่าอาหารรสเค็มทำให้เกิดความดันโลหิตสูง ก็จะไม่มีการระมัดระวังในการบริโภคเหมือนเช่นปัจจุบันที่ยังมีการบริโภคเกลือในอัตราสูง
ที่มา: หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการรายวัน |