นับเป็นเวลาถึง 54 ปี
ที่บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลายได้มีโอกาสแสดงออกถึงความเคารพ ความรัก
และความระลึกถึงพระคุณของคุณครูผู้ประสิทธิ์ประสาทความรู้ให้ในวันครูแห่ง
ชาติ ซึ่งปีนี้จะบรรจบครบเวียนมาอีกครั้งในวันที่ 16 มกราคม และวันครูปี
2554 รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาครู โดยวันนี้ (14 มกราคม 2554)
จะประกาศให้เป็นปีคุณภาพครู เพื่อเดินหน้าพัฒนาครู
ตามแผนยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ “6 เดือน 6 คุณภาพ”
ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
เป็นประธานประกาศจุดเน้นแผนดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2553
ประกอบด้วย ๑) เรียนฟรี เรียนดี ๑๕ ปี อย่างมีคุณภาพ ๒)
การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ๓) คุณภาพการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน ๔)
คุณภาพสถานศึกษายุคใหม่ โดยส่งเสริมให้มีโรงเรียนดีประจำตำบล
เพื่อเพิ่มความเท่าเทียมทางการศึกษาให้มากขึ้น ๕)
คุณภาพด้านเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
ด้วยการจัดตั้งกองทุนเทคโนโลยีและสารสนเทศ และ ๖) คุณภาพครู
โดยจะดำเนินการพัฒนาครูทั้งระบบ
เพื่อร่วมนำการศึกษาไปสู่เป้าหมายแห่งการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนเก่ง คนดี
และมีความสุข เป็นคุณภาพของเด็กไทยในอนาคต เป็นผู้ที่มีความสามารถ คิดเป็น
ทำเป็น แก้ปัญหาเป็น ก้าวไกลสู่สากล และมีความเป็นพลเมืองที่สมบูรณ์สืบไป
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์
มีความหวังอย่างมากกับบทบาทของครูต่อสังคมไทย
ดังข้อความในสารวันครูของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
เนื่องในโอกาสวันครู วันที่ 16 มกราคม 2553 มีใจความว่า
รัฐบาลนี้มีภารกิจสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ
การพัฒนาและปฏิรูประบบการศึกษาให้ทันต่อสถานการณ์ของโลกในปัจจุบัน
มุ่งพัฒนาเยาวชนไทยให้เป็นทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของแผ่นดิน
รู้จักพัฒนาศักยภาพของตนเอง และมีความเพียบพร้อมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ
สติปัญญา อารมณ์และสังคม
ซึ่งการดำเนินงานตามภารกิจนี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือร่วมใจจาก “ครู”
ทั้งในการสร้างสรรค์คุณภาพด้านการศึกษา
และการปลูกฝังสิ่งที่ดีงามให้แก่เด็กและเยาวชนของชาติอย่างเต็มความสามารถ
ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “ครู”
ทุกคนจะช่วยกันพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้ถึงพร้อมในด้านความรู้ ทักษะ
และสติปัญญา สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ทั้งแก่การดำรงชีวิตของตนและการสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่สังคมและประเทศ
ชาติ
โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ความรู้เป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตของ
ทุกคน
การมีปัญญาเป็นอาวุธจะทำให้ทุกคนสามารถนำพาบ้านเมืองไปสู่ความก้าวหน้า
รุ่งเรืองต่อไปได้
ยิ่งกว่านั้น
ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของเยาวชนไทยที่มีแนวโน้มลดลง
ได้สะท้อนถึงวิกฤตคุณภาพการศึกษาไทยที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
จึงเป็นความจำเป็นที่ต้องยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบ ด้วยมุ่งหวังที่จะพัฒนา
ครูผู้สอนให้มีความรู้ในเนื้อหารายวิชาที่สอนอย่างลึกซึ้ง
และมีความรู้ด้านวิธีวิทยากรสอน
สามารถจัดการการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 – 2555
จึงเริ่มจากการทดสอบครูเพื่อวัดระดับสมรรถนะและดำเนินการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติ
การ
เพื่อให้ครูสร้างเสริมความรู้และทักษะที่สามารถจัดการเรียนรู้ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ อันจะส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่สูงขึ้น
ซึ่งจะเป็นทรัพยากรสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป
ผลการประเมินครูในเบื้องต้น
โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
รวมทั้งสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
และเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาจำนวน ๒๕ แห่ง สรุปได้ว่า
ครูผู้สอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายมีความจำเป็นเป็นพิเศษที่ต้องพัฒนาให้มี
ความรู้ตรงกับสาระวิชาที่สอน นอกจากนั้นจะต้องปรับปรุงการผลิตครูพันธุ์ใหม่
โดยครูสามารถสอนแบบบูรณาการหรือเรียกว่ามีวิชาเอกคู่
เพื่อสามารถสอนได้หลายวิชาในชั้นเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น
แต่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายก็มีความจำเป็นที่จะต้องมีการผลิตและพัฒนาครู
เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญเพิ่มมากขึ้นส่งเสริมให้ครูมีโอกาสศึกษาต่อในระดับ
ที่สูงกว่าปริญญาตรี
อย่างไรก็ตาม
โครงการยกระดับคุณภาพครูทั้งระบบนี้ ยังประกอบด้วยกิจกรรมอื่นอีก 3 กิจกรรม
ได้แก่ การพัฒนาครูดี ครูเก่ง เพื่อเป็น Master Teacher หรือ
ครูแกนนำ, การยกระดับคุณภาพครู รวมทั้งผู้บริหารการศึกษา
ผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน และกิจกรรมสุดท้ายคือ
การพัฒนาครูด้วยระบบ E-training
วันครูแห่งชาติ ปี 2554
คนไทยทั้งประเทศจะได้ร่วมกันถวายพระราชสมัญญา
“พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดิน”
เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา
เชิดชูการปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เป็นแบบอย่าง
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ |