ชี้ปัจจัยเสี่ยงทำปฏิรูปรอบสองล่ม เตือนศธ.ปีนี้ปัญหาเยาวชนมาแรง
รศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ
อาจารย์คณะครุศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในฐานะคณะกรรมการนโยบายการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่
สอง (กนป.) เปิดเผยว่าตามที่
กนป.กำหนดยุทธศาสตร์การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2552-2561)
เพื่อให้คณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง
(กขป.)ดำเนินการขับเคลื่อนใน 10 เรื่อง อาทิ การปรับหลักสูตร
การกระจายอำนาจให้สถานศึกษา
การปรับการสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา นั้น
ปัจจัยที่จะทำให้การปฏิรูปการศึกษารอบสองสำเร็จได้ คือ นายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญโดยเป็นประธานประชุม กนป.
และติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิด ส่วนกขป. ซึ่งมี รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.)
เป็นประธานนั้น โดยส่วนตัวเห็นว่า รมช.ศธ.ควรมาจากพรรคเดียวกัน
เพื่อจะได้เดินงานไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญไม่ควรเปลี่ยนตัวรมว.ศธ.บ่อย
"สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้การปฏิรูปการศึกษารอบสองไม่สำเร็จ
ปัจจัยแรกซึ่งสำคัญที่สุด คือ การเมือง หากไม่นิ่งและใกล้ยุบสภา
จะทำให้ข้าราชการประจำทำงานแบบดูทิศทาง
หากพรรคประชาธิปัตย์กลับมาอีกครั้งก็จะสานงานต่อ
หากไม่ใช่ก็ต้องรื้องานใหม่อีกครั้ง ปัจจัยที่สอง คือ องค์ประกอบของ กนป.
และ กขป. มาจากข้าราชการประจำมากเกินไป
ทำให้นายกรัฐมนตรีได้รับข้อมูลฝ่ายเดียวและเป็นด้านบวก
เป็นข้อมูลที่ไม่มีชีวิต ไม่มีพลัง
อาจนำไปสู่การตัดสินใจระดับนโยบายที่ผิดพลาดได้" รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
รศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามตนเห็นว่าทั้ง 5
องค์กรหลักของศธ.ต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับปัญหาสังคม ซึ่งในปี 2554
ปัญหาของเด็กและเยาวชนจะรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดสื่อลามก
ทะเลาะวิวาท ปัญหาเด็กไม่ตั้งใจเรียน
และสิ่งแวดล้อมรอบสถานศึกษาไม่ได้รับการแก้ไข เป็นต้น.
ที่มา : --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 7 ม.ค. 2554 (กรอบบ่าย)-- |
โพสเมื่อ :
07 ม.ค. 54
อ่าน 10054 ครั้ง คำค้นหา :
|
|
ข่าวอื่นน่าสนใจ
|