สพฐ.ระดมกึ๋นสภานร.ชงมติให้นายกรัฐมนตรี8ม.ค.
สพฐ.เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรนักเรียนจัดประชุมสภานักเรียนระดับประเทศ ประจำปี 2554 ในวันที่ 5-8 มกราคมนี้ เสนอมติของที่ประชุมให้นายกรัฐมนตรี 8 มกราคมนี้ ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) เปิดเผยว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ตระหนักถึงความสำคัญของเยาวชนไทยซึ่งเป็นพลังของชาติในการที่จะสืบทอดความเป็นชาติ ศาสนา ภูมิปัญญา และวัฒนธรรม และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และยังเป็นกำลังของชาติในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าเทียบเท่านานาประเทศ ดังนั้นจึงจัดโครงการ สภานักเรียนระดับประเทศประจำปี 2554 เพื่อพัฒนาองค์กรนักเรียนให้เข้มแข็งสร้างประชาธิปไตยในโรงเรียน ตระหนักถึงการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข มีความพอเพียงและยึดมั่นธรรมาภิบาล สามารถเติบโตเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติขึ้นระหว่างวันที่ 5-8 มกราคมณ โรงแรมบางกอกพาเลส ประตูน้ำ กรุงเทพฯ ทั้งนี้สพฐ.ได้เชิญองค์กรนักเรียนหรือกรรมการนักเรียนในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา และโรงเรียนขยายโอกาส ทั้งภาครัฐและเอกชน และโรงเรียนการศึกษาพิเศษจากทั่วประเทศและจะนำเสนอมติสำคัญที่ได้จากการประชุมในครั้งนี้ให้แก่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 8 มกราคม2554 ณทำเนียบรัฐบาล เลขาธิการกพฐ.กล่าวอีกว่า การดำเนินงานขององค์กรนักเรียนและคณะกรรมการนักเรียนมีส่วนร่วมในการบริหารและพัฒนาโรงเรียนอย่างมีคุณค่า และเพื่อสร้างสังคมโรงเรียนให้เป็นสังคมเปิดมีกลไกป้องกันและแก้ไขความทุกข์ร้อนของทุกฝ่าย มีความพอเพียงและยึดมั่นในหลักการตามวิถีชีวิตประชาธิปไตย รวมทั้งเพื่อให้บุคลากรที่รับผิดชอบงานองค์กรนักเรียนหรือกรรมการนักเรียน มีความรู้ ความเข้าใจในการส่งเสริมการดำเนินการของนักเรียนในสถานศึกษา ดังนั้นการพัฒนาองค์กรนักเรียนให้เข้มแข็งนั้นเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เพราะนอกจากนักเรียนจะสามารถดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาลได้อย่างถูกต้องเกิดความสมานฉันท์แล้ว การประชุมในครั้งนี้ยังส่งผลให้นักเรียนผู้เข้าร่วมประชุมมีภาวะผู้นำที่ดี รู้จักทำงานร่วมกัน ได้รับการปลูกฝังค่านิยมและทัศนคติความเป็นประชาธิปไตย รวมทั้งบุคลากรที่รับผิดชอบองค์กรนักเรียนหากมีความรู้ความเข้าใจในการส่งเสริมการดำเนินงานของนักเรียนได้อย่างถูกต้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกันแล้ว ย่อมจะสามารถขยายผลไปยังสถานศึกษาอื่นได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดร.ชินภัทรกล่าว
ที่มา: http://www.komchadluek.net |